วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

ความจริง & ความฝัน

 อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดในชีวิต  ?  ความสุข เงินทอง ยศ ความรัก
 เเล้วอะไรที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ ?  เงิน ความสามารถ
 


ไม่ว่าเหตุผลของคุณจะคือะไรก็ตาม เเต่สิ่งหนึ่งที่จะทำความฝันให้เป็นจริง คือการลงมือทำ เพราะเพียงความคิดมันไม่สามารถทำให้คุณสำเร็จได้ หากไร้การลงมือทำ!!

มันเริ่มจาก ความคิด ความฝันต่อ ด้วยการลงมือ ทำ ...
เพียงคุณคิดว่าจะทำเเล้วทำมันอย่างจริงจัง ทุกอย่างมันไม่มีอะไรยากเเละง่ายเพียงทำตั้งใจอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น  

เเล้วอะไรล่ะที่เป็นพื้นฐานที่เราควรมี  . . . . .  .  เเน่นอน ว่าต้องเป็น "การศึกษา"

ในความคิดของเรานะ หากเปรียบความการศึกษาเป็นอะไรสักอย่างของอวัยวะเรา
 เราคิดว่าเป็นขา. . . .  . เพราะขาเป็นสิ่งที่จะพาร่างกายเราทั้งหมดไปยังจุดที่เราต้องการได้ เเต่ก็นะ หากเราไม่มีการศึกษาที่ดีก็ใช่ว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จ หลายคนที่ประสบความสำเร้จซึ่งถ้าเราศึกษาประวัติเขาเเล้วจะทราบได้เลยว่า บางคนมีโอกาสได้เรียนเเค่ชั้นประถม บางก็ไม่ได้เรียน  เเล้วอะไรล่ะที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ ความพยาม +ประสบการณ์ นี้เเหละเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในห้องเรียน  ก็เหมือนคนที่ขาขาดเเต่เขาก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองได้อย่างปกติ เเล้วสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สุขที่พอใจในตัวเอง ไม่มีใครที่จะมีชีวิตที่เเย่หรอก หากเราไม่ยอมรับมัน จิตเรานี้เเหละที่กำหนด  หาใช่สภาพเเวดล้อมไม.  

     ...          จะเป็นอะไรเป็นใครไม่สำคัญ   ขอให้เป็นคนดีเท่านั้นสำคัญที่สุด        ....
หากใครที่กำลังน้อยใจตัวเอง ว่าทำไมเรียนไม่เก่ง อันนี้ก็ทำไม่ได้ อันนู้นก็ทำไม่เป็น
ลองเปลี่ยน ตัวเองดูสักนิด  พยามสักหน่อย  คุณก็สามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้  


โดยการยอมรับสิ่งใหม่ๆ ฝึกตัวเองให้มีนิสัยขยัน เเค่ตั้งใจ อะไรๆเราก็ทำได้.  เหมือนการเล่นเกมคุกกี้รันไง ฮ่าๆๆๆ บางทีเราเห็นหัวใจนะเเต่กระโดดรับไม่ทัน เเละเราไม่สามารถย้อนกลับไปได้ ทำได้เพียงรอหัวใจอีกดวงที่อยู่ข้างหน้า  เหมือนกับความเร็วของไฟ(เรื่องของเกมอยู่นะ ) ที่เวลาเราได้มันทำให้เราไปได้เร็วทำลายสิ่งขีดขว้างได้ เเต่ก็นะการไปเร็วก็ใช่ว่าจะดี เพราะบางทีเราก็พลาดอะไรหลายๆๆอย่าง

**เหมือนคนอารมณ์ร้อนไง ทำไปโดยไม่ได้ตั้งตัว เพียงเพราะตอนนั้นใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล



**ฝันให้ไกล เเล้วอย่าลืมไปให้ถึงนะ อิอิ  





















ฉัตรกมล


วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

นิทาน "พ่อเเม่รังแกฉัน"


   มา มา มา นะ มาอ่านนิทานก็นอนกัน  ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้มาอัพนานเเล้ว T^T เอาเป็นว่าถ้าอ่านเสร็จเเล้วก็เปิดคอม หลับตา นอน ฝันหวานกันทุกคนนะคะ  อ่าๆๆเข้าเรื่องเลยล่ะกัน ^^ 


เรื่อง : พ่อเเม่รังแกฉัน

นิทานสอนใจ เรื่องพ่อแม่รังแกฉัน: พ่อแม่ที่ตามใจลูกจนเกินไป เป็นการปลูกฝังในสิ่งที่พ่อแม่ทำให้แบบเกินพอดี ทำให้ลูกติดนิสัยเอาแต่ใจ ไม่มีความอดทน พ่อแม่รังแกฉัน เป็นประโยคเปรียบเทียบ พ่อแม่ที่ดีต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้เห็น ตัวอย่างที่ดีในที่นี้ไม่ใช่สิ่งดีๆอย่างเดียวต้องรวมเรื่องที่ไม่ดีด้วย และอธิบายให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่ไม่ดีๆเพราะอะไร ลองมาดูตัวอย่างว่า พ่อแม่รังแกฉัน เป็นยังไง

.........................................................................................
เมื่อชัยอายุ 6 ขวบ ขณะที่นั่งรถไปกับพ่อ ถูกตำรวจจับเพราะขับรถเร็วเกินกำหนดพ่อแอบยื่นเงิน 500 บาทให้ตำรวจ และได้รับอนุญาตปล่อยตัวไปพ่อหันมาพูดกับชัยว่า “ไม่เป็นไรลูก เงินแค่นี้ซื้อเวลา ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ” 



เมื่อชัยอายุ 8 ขวบ ป้าพาไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเป็นเงิน 75 บาทเมื่อป้าไปชำระเงิน ยื่นธนบัตรร้อยบาทให้พนักงาน ได้รับเงินทอน 55 บาทเพราะลูกค้ามากและเข้าใจว่าธนบัตร 50 บาท คือ 20 บาทป้ารับเงินทอนและใส่กระเป๋าทันที แทนที่จะบอกพนักงานว่าทอนเงินผิดเมื่อออกจากร้านป้าก็พูดกับชัยว่า“ไม่เป็นไรหลาน...ความผิดของเขาเองใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”



เมื่อชัยอายุ 9 ขวบ ครูให้การบ้านปลูกต้นหอมแดงในกระบะ 2 สัปดาห์แล้วนำไปส่งที่โรงเรียน แม่ลืมซื้อหัวหอมแดงมาให้ชัย เมื่อครบกำหนดวันส่งแม่ให้พ่อไปซื้อต้นหอมแดงที่ตลาด และฝังลงในกระบะให้ชัยนำไปส่งครูแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรลูก... ครูไม่รู้หรอก มีส่งก็ดีแล้ว ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”



เมื่อชัยอายุ 12 ขวบ ชัยทำแว่นตาใหม่ราคาแพงของลุงแตกลุงจึงนำใบเสร็จไปอ้างกับบริษัทเครดิตที่ลุงใช้บริการอยู่ว่าแว่นตาถูกขโมยได้รับเงินชดใช้มา 15,000 บาท เต็มราคาที่ซื้อมา ลุงพูดกับชัยอย่างภาคภูมิใจว่า“ไม่เป็นไรหรอกหลาน สิทธ์ของเราใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ



เมื่อชัยอายุ 15 ปี ได้เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนครูฝึกได้สอนวิธีกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามให้บาดเจ็บโดยไม่ผิดถือว่าอยู่ในเกมครูฝึกบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก... ได้เปรียบไว้ก่อนเป็นดี ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”



เมื่อชัยอายุ 16 ปี ได้ไปทำงานระหว่างปิดเทอมที่แผนกซูปเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อแห่งหนึ่ง หัวหน้าแผนกให้ชัยจัดกระเช้าผลไม้โดยแนะนำให้จัดวางผลไม่สวยจวนจะเน่าอยู่ก้นตะกร้า คัดผลสวย ใบโตสีสดจัดวางอยู่ส่วนบน หัวหน้าแผนกสอนว่า “ไม่เป็นไรหรอก ผู้ซื้อไม่ได้ใช้เองแต่นำไปฝากคนอื่น ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”



เมื่อชัยอายุ 18 ปี ได้สมัครสอบเพื่อเข้าขอรับทุนของมหาวิทยาลัยปรากฏผลทราบเป็นการภายในว่ามาเป็นอันดับ 2เมื่อพ่อรู้เข้าจึงไปพูดกับกรรมการซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันในที่สุดชัยก็ได้รับทุน พ่อพูดกับชัยว่า “ไม่เป็นไรลูก...เป็นโอกาสของเราใครๆ ถ้ามีโอกาส เขาทำกันทั้งนั้นแหละ”



เมื่อชัยอายุ 19 ปี เพื่อนเอาข้อสอบปลายปีที่ขโมยมาขายกับชัยเป็นเงิน 1,500 บาทชัยลังเลใจและตัดสินใจซื้อในที่สุด เพราะเพื่อนพูดว่า“ไม่เป็นไรหรอกชัย...เกรดมีผลกับอนาคตนะ ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”



เมื่อชัยอายุ 24 ปี ชัยถูกจับข้อหายักยอกเงินบริษัท 700,000 บาทและต้องติดคุก พ่อกับแม่ไปเยี่ยมและตัดพ้อต่อว่า“ทำไมลูกทำอย่างนี้กับพ่อแม่ ที่บ้านเราไม่ได้สอนให้ลูกเป็นคนขี้โกงเลยนะ” 



พ่อแม่รังแกฉัน ขอบคุณข้อมูลจาก มีธรรมหนึ่ง ดอทคอม


นิทานสอนใจ :พ่อแม่ที่ตามใจลูกจนเกินไป เป็นการปลูกฝังในสิ่งที่พ่อแม่ทำให้แบบเกินพอดี ทำให้ลูกติดนิสัยเอาแต่ใจ ไม่มีความอดทน พ่อแม่รังแกฉัน เป็นประโยคเปรียบเทียบ พ่อแม่ที่ดีต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้เห็น ตัวอย่างที่ดีในที่นี้ไม่ใช่สิ่งดีๆอย่างเดียวต้องรวมเรื่องที่ไม่ดีด้วย และอธิบายให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่ไม่ดีๆเพราะอะไร นิทานสอนใจ พ่อแม่รังแกฉัน โดย พระยาอุปกิตศิลปสาร